1. เป็นลูกค้าที่มีบัญชีกองทุนของ บลจ.กสิกรไทยอยู่แล้ว
2. มี e-mail address เพื่อใช้ในการติดต่อกับ บลจ.กสิกรไทย

• แบบฟอร์ม “คำขอใช้บริการธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ต”
• แบบฟอร์ม “หนังสือขอให้หักบัญชีธนาคาร”
• สำเนาบัตรประชาชน รับรองสำเนาถูกต้องเพื่อแนบกับคำขอใช้บริการธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ต
• สำเนาบัตรประชาชน รับรองสำเนาถูกต้องเพื่อแนบกับหนังสือขอให้หักบัญชีเงินฝาก(1 ฉบับต่อ 1 บัญชีธนาคาร)
• สำเนาสมุดบัญชีกองทุน(กรณีมีหลายกองทุน ให้ถ่ายสำเนาหน้าสมุดกองทุนใดกองทุนหนึ่ง)
• สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร(1 ฉบับต่อ 1 ธนาคาร)

• สมัครผ่านการกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มทางอินเตอร์เน็ต โดยการเข้าสู่บริการ K-Cyber Invest เลือกเมนู สมัครใช้บริการ ซึ่งผู้สมัครจะต้องกำหนด รหัสผู้ใช้งาน(User name) และรหัสผ่าน (Password)ด้วยตัวเอง กรอกรายละเอียดบัญชีกองทุน บัญชีธนาคาร และสั่งพิมพ์แบบฟอร์มพร้อมเอกสารประกอบการสมัครส่งให้ บลจ.กสิกรไทย
• ติดต่อขอรับเอกสารการสมัครที่สาขาธนาคารกสิกรไทย ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืน หรือ บลจ.กสิกรไทย โดยคุณจะต้องกรอกแบบฟอร์ม “หนังสือขอให้หักบัญชีเงินฝาก” (วิธีการขออนุมัติการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติผ่านตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกสิกรไทย    ธนาคารไทยพาณิชย์   ธนาคารทหารไทย) แบบฟอร์ม “คำขอใช้บริการธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ต” ด้วยตนเอง พร้อมทั้งแนบเอกสารประกอบการสมัครส่งให้ บลจ. กสิกรไทย

         หลังจากที่บลจ.กสิกรไทยได้รับเอกสารหลักฐานการสมัครครบถ้วนแล้ว ระบบจะส่งผลการสมัครไปภายใน 3 วันทำการ คุณจะได้รับแจ้งผลการอนุมัติการเข้าใช้งานในระบบ โดยคุณจะสามารถขายคืนหน่วยลงทุน สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน แก้ไขทางทะเบียน แต่ยังต้องรอผลการอนุมัติการหักบัญชีเงินฝากเพื่อซื้อหน่วยลงทุนภายใน 3 สัปดาห์ คุณจะได้รับแจ้งผลการอนุมัติการหักบัญชีเงินฝาก โดยหลังจากได้รับ e-mail แล้วคุณจะสามารถทำรายการซื้อหน่วยลงทุนได้

1. ผู้ใช้บริการที่ทำรายการผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้รับ และอ่านข้อกำหนด เงื่อนไขและข้อความใดๆที่ระบุในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญที่ผู้ลงทุนควรทราบ คู่มือผู้ลงทุนและความเสี่ยงของกองทุนเรียบร้อยแล้วและตกลงยินยอมปฏิบัติและผูกพันตนเองตามข้อกำหนดและเงื่อนไขดังกล่าวทุกประการ ในกรณีที่เป็นการซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพและกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ผู้ใช้บริการได้อ่านคู่มือภาษีรวมถึงรับทราบเงื่อนไขและภาระผูกพันเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเรียบร้อยแล้ว
2. ผู้ใช้บริการซื้อหรือขายหน่วยลงทุนผ่านทางอินเตอร์เน็ตรับทราบและยินยอมผูกพันตามหนังสือชี้ชวนที่เสนอขายหน่วยลงทุนของแต่ละกองทุนฉบับที่เป็นปัจจุบันหรือที่จะปรับปรุงแก้ไขในภายหน้า ตลอดจนข้อกำหนด เงื่อนไข วิธีการใช้บริการธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ตที่บริษัทจัดการกำหนด
3. เมื่อบริษัทจัดการพิจารณาอนุมัติคำขอให้ดำเนินการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ตแล้ว บริษัทจะแจ้งการอนุมัติรหัสผู้ใช้ (User name) และรหัสผ่าน (Password) ไปยังผู้ใช้บริการตาม อี-เมล์ (e-mail address) ที่ได้แจ้งไว้ข้างต้น ภายใน15 วัน นับแต่วันยื่นคำขอ หากผู้ใช้บริการไม่ได้รับภายในกำหนดดังกล่าว กรุณาติดต่อ ส่วนบริการผู้ลงทุน โทรศัพท์ 02 673 3888
4. กรณีการใช้บริการซื้อหรือขายหน่วยลงทุนผ่านอินเตอร์เน็ต เมื่อผู้ใช้บริการได้รับรหัสผ่านจากบริษัทจัดการแล้ว ผู้ใช้บริการจะต้องเก็บรักษารหัสผ่านไว้ในที่มั่นคงปลอดภัย และถือเป็นความลับเฉพาะตัวของผู้ใช้บริการเท่านั้น ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมว่าในกรณีการใช้บริการซื้อหรือขายหน่วยลงทุนที่กระทำโดยรหัสผ่านของผู้ใช้บริการโดยถูกต้องแล้ว ให้การซื้อหรือขายหน่วยลงทุนดังกล่าวมีผลผูกพันผู้ใช้บริการ ทุกประการ ผู้ใช้บริการตกลงเป็นผู้รับผิดชอบการกระทำดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว
5. ผู้ใช้บริการจะใช้บริการธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ตได้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้บริการได้รับอนุมัติให้เปิดบัญชีกองทุนไว้กับบริษัทจัดการแล้ว
6. ในกรณีที่มีผู้ถือหน่วยลงทุนมากกว่า 1 ราย ในบัญชีกองทุนเดียวกัน และผู้ถือหน่วยลงทุนมีความประสงค์ใช้บริการทางอินเตอร์เน็ต บริษัทจัดการจะออกรหัสผ่านให้เพียงชุดเดียว โดยผู้ถือหน่วยลงทุนผู้ยื่นคำขอใช้บริการธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ตรับรองว่าเป็นผู้มีสิทธิกระทำการแทนผู้ถือหน่วยลงทุนรายอื่นๆ ซึ่งถือหน่วยลงทุนในบัญชีนั้น และจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายอันอาจจะเกิดต่อผู้ถือหน่วยลงทุนรายอื่นๆ ซึ่งถือหน่วยลงทุนอยู่ในบัญชีนั้น หรือต่อบริษัทจัดการในการกระทำที่เกี่ยวข้องกับบัญชีดังกล่าว บริษัทจัดการจะถือว่ารายการที่เกิดขึ้นจากการใช้รหัสผ่านมีผลผูกพันผู้ถือหน่วยลงทุนในบัญชีกองทุนดังกล่าวทุกราย
7. ในกรณีที่ผู้ใช้บริการไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือจดจำรหัสผ่านของตนได้ และประสงค์จะให้บริษัทจัดการออกรหัสผ่านให้ใหม่ ผู้ใช้บริการต้องยื่นคำขอต่อบริษัทจัดการ เพื่อแจ้งระงับรหัสผ่านเดิม และขอรหัสผ่านใหม่ โดยเมื่อได้รับอนุมัติแล้ว ผู้ใช้บริการจึงจะสามารถใช้บริการได้
8. บริษัทจัดการมีสิทธิระงับการใช้รหัสผ่านของผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวได้ หากการใส่ข้อมูลรหัสผ่านดังกล่าวมีความผิดพลาดเกินจำนวนครั้งที่บริษัทจัดการกำหนด
9. ผู้ใช้บริการตกลงว่าจะไม่เพิกถอนรายการซื้อหน่วยลงทุนทางระบบอินเตอร์เน็ตที่เกิดขึ้นจากการใช้รหัสผ่านของผู้ใช้บริการ
10. ผู้ใช้บริการตกลงว่าจะไม่เพิกถอนรายการขาย และสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนทางระบบอินเตอร์เน็ตที่เกิดขึ้นจากการใช้รหัสผ่านของผู้ใช้บริการภายหลัง เวลารับซื้อคืนของวันทำรายการจะมีผลเป็นการทำรายการวันถัดไป ทั้งนี้ โปรดตรวจสอบวันและเวลารับซื้อคืนได้ที่ ตารางการซื้อขายหน่วยลงทุน ที่ปรากฏใน www.kasikornasset.com
11. ผู้ใช้บริการตกลงให้ถือเอาหลักฐานทางทะเบียนที่ปรากฏอยู่ที่บริษัทจัดการเป็นหลักฐานในการทำรายการที่สมบูรณ์ถูกต้องและใช้อ้างอิงได้
12. ผู้ใช้บริการเข้าใจและรับทราบถึงความเสี่ยงของการใช้บริการทางระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งอาจมีความเสียหายเกิดขึ้นได้โดยตรงหรือโดยอ้อมจากความชำรุดบกพร่องหรือการ ขัดข้องของอุปกรณ์ใดๆ ระบบข้อมูลหรือการเชื่อมโยงเครือข่าย การสูญหายของข้อมูลระหว่างการรับส่ง หรือข้อพิพาทในเชิงธุรกิจหรือสิ่งอื่นใดที่อยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทจัดการ หรือความควบคุมของตัวแทนของบริษัทจัดการ หรือความควบคุมของคู่สัญญาต่างๆ ที่มีกับบริษัทจัดการ และผู้ใช้บริการตกลงว่าจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ที่เกิดจากกรณีดังกล่าวจากบริษัทจัดการ
13. บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมข้อตกลงและเงื่อนไขนี้ได้ ตามแต่บริษัทจัดการจะเห็นสมควร ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะแจ้งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน โดยประกาศ ณ ที่ทำการและในเว็บไซต์ของบริษัทจัดการ
14. ผู้ซื้อหน่วยลงทุนจะเป็นผู้รับภาระค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกิดขึ้น จากการหักเงินจากบัญชีเงินธนาคารเพื่อซื้อหน่วยลงทุน
15. หากมีค่าใช้จ่าย หรือค่าธรรมเนียมในการใช้บริการธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมให้หักจากบัญชีเงินฝากของผู้ใช้บริการได้ด้วย
16. ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารที่หักบัญชีเงินฝากติดต่อตรวจสอบ เปิดเผย และแลกเปลี่ยนข้อมูล/ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้ใช้บริการ จากบุคคลและสถาบันอื่นๆ ได้ตามที่ธนาคารเห็นสมควร
17. ผู้ใช้บริการและบริษัทจัดการตกลงให้กฎหมายของประเทศไทยเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับกับข้อตกลงและเงื่อนไขนี้และหากมีข้อพิพาทใดๆเกิดขึ้นให้ศาลไทยเป็นศาลที่มีเขตอำนาจในการพิจารณา